วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

นายเพือย ดีด้วยมี ปราชญ์ชาวบ้านด้านการแพทย์แผนไทย

สาขาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร
ปราชญ์ชาวบ้านสาขาการแพทย์แผนไทย  และสมุนไพร
การดูแลรักษาสุขภาพของมนุษย์มีมาตั้งแต่สมัยอดีตกาล   มนุษย์ในแต่ละสังคมต่างก็มีวิธีการดูแลสุขภาพและรักษาอาการเจ็บป่วยด้วยวิธีการต่าง ๆ ออกไป ทั้งนี้ขึ้นกับบริบทของชุมชน ระบบความเชื่อ สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ ที่มีลักษณะเฉพาะถิ่น   สภาพสังคมในปัจจุบันที่มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและระบบการแพทย์ กระแสหลักทำให้ประชาชนทั้ง         ในเมืองและชนบทมีการพึ่งพิงระบบการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งเป็นระบบการแพทย์กระแสหลักเป็นส่วนใหญ่     จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีลักษณะความหลากหลายทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะลักษณะวัฒนธรรมไทย-เขมร ที่มีการดูแลสุขภาพที่แตกต่างไปจากท้องถิ่นอื่น  ซึ่งเป็นที่น่าสนใจและควรที่จะได้มีการศึกษารวบรวมองค์ความรู้อันเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ทรงคุณค่าเหล่านี้ไว้เพราะนับวันภูมิปัญญาเหล่านี้จะลดน้อยลงไปทุกขณะ  
ดังนั้นจึงได้มีการศึกษาและรวบรวมภูมิปัญญาพื้นบ้านด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร  เพื่อเป็นแนวทางในการอนุรักษ์และนำไปประยุกต์ใช้เพื่อให้ชุมชนมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านการดูแลสุขภาพในเบื้องต้นต่อไป
๑. นายเพือย   ดีด้วยมี  ปราชญ์ชาวบ้านด้านการแพทย์แผนไทย

ประวัติส่วนตัว
ชื่อ-สกุล  นายเพือย ดีด้วยมี    เกิดเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๙                                                       ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ ๔๗ หมู่ ๘ บ้านกาเกาะ  ตำบลท่าสว่าง  อำเภอเมืองสุรินทร์  จังหวัดสุรินทร์      
จบการศึกษาชั้นสูงสุดประถมศึกษาปีที่ ๔   สมรสกับนางเสมียน ดีด้วยมี มีบุตรธิดาด้วยกัน ๕ คน ปัจจุบันประกอบอาชีพหลักคือการทำนา
วิธีการเรียนรู้ของภูมิปัญญา
เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔   นายเพือย  ดีด้วยมี  ได้ออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำนา เลี้ยงวัวเลี้ยงควาย  เพราะที่บ้านมีฐานะยากจน อีกทั้งพ่อแม่มีลูกหลายคนไม่สามารถส่งเสียให้เรียนสูงกว่านี้ได้   ทำนาอยู่ระยะหนึ่ง  เมื่อเห็นว่าทางบ้านมีฐานะพอมีพอกินไม่เดือดร้อนแล้ว จึงได้ขออนุญาตพ่อแม่ออกบวชเรียนที่วัดในหมู่บ้าน  ปี  พ.ศ. ๒๕๐๖-๒๕๐๘ ได้ไปจำพรรษาที่วัดมงคลรัตน์ บ้านตะโก ตำบลคอโค อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยจำพรรษา อยู่เป็นเวลา ๓ ปี    ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อพวน วรมังคโร  เป็นเจ้าอาวาสวัดมงคลรัตน์   ช่วงที่จำพรรษาอยู่นั้น ได้มีโอกาสได้ฝึกปฏิบัติสมาธิจนแก่กล้า และได้เรียนรู้ตำราการรักษา รวมทั้งมนต์คาถาต่าง ๆ   จากหลวงพ่อพวน วรมังคโร
แรงบันดาลใจของการมาเป็นหมอพื้นบ้าน
 การที่นายเพือย  ดีด้วยมี  มีแรงบันดาลใจและให้ความสนใจในการเป็นหมอพื้นบ้านอัน เนื่องมาจาก
๑.   การซึมซับจากสภาพในครอบครัว  กล่าวคือ แม่เป็นหมอพื้นบ้านรักษากระดูกหักที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านมาก   ส่วนพ่อก็เป็นหมอที่มีความสามารถรักษาแผลจาก
งูพิษกัด   การที่สภาพภายในครอบครัวที่ทั้งพ่อและแม่เป็นหมอพื้นบ้านที่เสียสละช่วยดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย ตั้งแต่เกิดมาก็ได้เห็นพฤติกรรมของพ่อแม่ที่ให้การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มาโดยตลอด  จึงได้ซึมซับการปฏิบัติของพ่อแม่ ทำให้มีจิตใจที่มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์  อีกทั้งพ่อและแม่ให้มีส่วนร่วมเข้าไปร่วมในกระบวนการรักษา ทำให้เริ่มสนใจการรักษามาตั้งแต่เด็ก    เมื่ออายุ ๖-๗ ปี พ่อและแม่จะพาไปเก็บสมุนไพร ประสบการณ์ที่ได้จากพ่อแม่จึงทำให้สะสมความรู้และความใส่ใจในการดูแลคนไข้ ทั้งการรักษากระดูกหัก  รักษาแผลจากงูพิษกัด 
 ๒.  ในช่วงที่บวชเรียนและได้ไปจำพรรษาที่วัดมงคลรัตน์นั้น  หลวงพ่อพวน  วรมังคโร  ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส ท่านมีความสามารถทางด้านคาถาอาคม  และช่วยรักษาผู้เจ็บป่วยจำนวนมาก  ในแต่ละวันจะมีผู้ที่เจ็บป่วยมาขอรับการรักษาเป็นจำนวนมากมีทั้งที่ป่วยด้วยโรคทางกายและป่วยเนื่องจากสภาพจิตใจ    นายเพือย  ดีด้วยมี  ซึ่งบวชเป็นพระลูกศิษย์จำพรรษาอยู่ในวัด  จึงมีโอกาสได้เรียนกรรมฐานการปฏิบัติสมาธิ และเรียนรู้การรักษาผู้เจ็บป่วยด้วยอาการต่าง ๆ เช่นคนวิกลจริต  ถูกคุณไสย ฯลฯ
การที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการนั่งกรรมฐานช่วยให้มีสมาธิแก่กล้า สามารถเพ่งสมาธิรู้ว่าผู้เจ็บป่วยแต่ละคนเจ็บป่วยจากสาเหตุอะไร   และจะใช้วิธีการแก้ไขอย่างไร รวมทั้งมีความรู้เกี่ยวกับยาที่จะใช้รักษาอาการเจ็บป่วยด้วย

เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องสมุนไพรให้กับนักเรียน
แนวความคิด
 นายเพือย   ดีด้วยมี  มีแนวความคิดที่สำคัญ ในการเป็นหมอพื้นบ้านเพราะต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้สุขสบายขึ้นช่วยให้พ้นจากการทุกข์ทรมานหายจากการเจ็บป่วย  โดยมี
มุมมองต่อชีวิตว่า “ในชีวิตต้องการให้ประชาชนรวมทั้งสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้มีความสุขสบาย เราสบาย เขาสบาย เราได้กิน เขาได้กิน” 
 นอกจากนี้   ยังมีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต คือ บั้นปลายชีวิตมองหาที่ตาย ตายให้มีความสงบ เตรียมตัวก่อนตาย บุตรหลานจะได้ไม่เดือดร้อน  ในด้านการครองชีวิตคู่ เน้นการทำหน้าที่ของแต่ละคนให้สมบูรณ์ที่สุด  ในด้านการสั่งสอนลูก ต้องกระทำตัวเองให้ลูกหลานดูเป็นตัวอย่างที่ดี  และต้องพัฒนาตัวเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น แข่งขันกับตัวเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
ความสามารถเฉพาะ
นายเพือย  มีด้วยดี  มีความสามารถในการรักษาอาการเจ็บป่วยด้วยโรคท้องถิ่นต่าง ๆ  รวมทั้งอาการอื่น ๆ  เช่น   อาการวิกลจริต  การถูกพิษ  ถูกคุณไสย  ซางตานขโมย เด็กร้องไห้ไม่หยุด  งูสวัด  อาการไข้ต่าง ๆ  งูกัด  กระดูกหัก  ปวดท้อง  ปวดหัว  เบาหวาน    ผิดสำแดงประเภทต่าง ๆ   ตกเลือดหลังคลอด ฯลฯ    การรักษาของนายเพือย  ดีด้วยมี   ประกอบด้วยการรักษาอยู่ที่บ้าน  และไปรักษาที่บ้านคนไข้
นอกจากนี้นายเพือย    ดีด้วยมี ได้มีโอกาสพัฒนาองค์ความรู้จากการมีชมรมหมอพื้นบ้านสุรินทร์    ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์  ได้รวบรวมหมอพื้นบ้านและจัดตั้งเป็นชมรมโดยมีกิจกรรมให้สมาชิกที่เป็นหมอพื้นบ้านได้มีโอกาสพบปะ มีการประชุมแลกเปลี่ยนความรู้          การสัมมนาตำรายาสมุนไพรพื้นบ้าน   การเดินป่าสำรวจพันธุ์สมุนไพร    จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มเติมจากหลวงพ่อเมียก  ฉันฑวุฒโฑ  และหมอพื้นบ้านคนอื่น ๆ
สมุนไพรที่ใช้ประกอบการรักษา
              สมุนไพรที่ใช้ในการรักษาผู้เจ็บป่วยโรคต่าง ๆ  สิ่งที่ต้องใช้คือสมุนไพรพื้นบ้าน
 ตามตัวอย่างที่ได้นำเสนอตามลำดับดังนี้
โรคซางตานขโมยในเด็ก    รักษาโดยการให้แม่กินยาสมุนไพร  สมุนไพรที่ใช้   คือ  ตังกีบกะดาม  (เม่าไข่ปลา) และ  ตระเส็จ (นนทรี)   นำสมุนไพรทั้ง ๒ ชนิด มาต้มให้แม่กินต่างน้ำ
ยากวาดลิ้นเด็ก   โดยใช้เถาบอระเพ็ดและหัวตะไคร้  นำมาเผาให้เป็นผงถ่าน ผสมน้ำใช้กวาดลิ้นให้เด็ก
งูสวัด  ใช้หน่อไม้ป่าและหน่อไม้บ้าน   หัวกลอย    ลูกน้อยหน่าแห้งเผา นำสมุนไพรทั้งหมด แช่น้ำนาน ๓๐ นาที   แล้วให้ดื่ม  ห้ามแช่นานกว่านี้ เพราะจะทำให้ยาบูด

วิธีการรักษาแบบหมอพื้นบ้านของนายเพือย  ดีด้วยมี

ยาแก้ร้อนใน ใช้สมุนไพร คือ หัวกลอยสด เอาเปลือกขนออก  ฝานบาง ๆ ประมาณ ๒ นิ้ว (ใช้มากจะเป็นพิษ)   หน่อไม้บ้านสดใช้ต้นอ่อน(หน่อ) ๑ หน่อ (เส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ ๑ นิ้วมือ ยาว ๔ นิ้ว)  ผลน้อยหน่าแห้งคาต้น (ลูกเท่ากำมือ) เผาไฟให้ไหม้ จำนวน ๑ ลูก   นำตัวยาทั้งหมดมาแช่น้ำ หากให้เด็กทารกที่กินนมแม่ ให้แช่ยา  ๓๐  นาที  จากนั้นนำน้ำยาที่แช่มาหยดใส่  หัวนมแม่  แล้วจึงให้ลูกดูดนมแม่  สำหรับในเด็กอายุ ๑-๓ ปี และผู้ใหญ่  ให้แช่ยา ๓๐  นาที   เช่นกันแต่ให้นำมาให้ดื่มแทนน้ำ
  คางทูม  การรักษาใช้สมุนไพร คือ ใบมะลิ  ๑  กำมือ   ใบตำลึง ๑  กำมือ  นำสมุนไพรทั้งหมดมาตำรวมกัน  ใส่น้ำเล็กน้อยนำมาปิดหรือพอกบริเวณที่เป็น ให้หยอดน้ำบ่อย ๆ  บริเวณที่พอกยาอย่าปล่อยให้ยาแห้ง   และต้องเปลี่ยนยาที่พอกทุกวัน  ห้ามรับประทานอาหารแสลง  ได้แก่   ไก่   เหล้า   ข้าวเหนียว
วิธีการถ่ายทอดภูมิปัญญา
 นายเพือย  ดีด้วยมี  ได้ถ่ายทอดวิชาให้กับลูกศิษย์ มากกว่า ๑๐ คน แต่ลูกหลานไม่มีคนที่สืบทอดต่อ นายเพือย   ดีด้วยมี  บอกว่าอาจเนื่องจากทุกคนมีงานทำซึ่งอยู่ไกลไม่มีเวลามาเรียนและไม่มีเวลาให้การรักษาแก่ชาวบ้าน
 สำหรับวิธีการถ่ายทอดความรู้   ไม่มีข้อปฏิบัติยุ่งยากจะพิจารณาผู้ที่มาขอเป็นศิษย์โดยการนั่งสมาธิและสังเกตพฤติกรรมเป็นระยะเวลาหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นผู้ที่มีคุณธรรม ก็จะให้นำดอกไม้ธูปเทียน  ขันธ์ ๕ พร้อมเงิน  ๑๒ บาท มาขอสมัครเป็นศิษย์ จากนั้นก็จะถ่ายทอดความรู้ให้โดยการบอกเล่า  และให้เข้าร่วมในกระบวนการรักษาด้วยเพื่อให้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับการรักษาคนไข้
สิ่งที่ทำให้ภูมิปัญญาคงอยู่
 สิ่งที่ทำให้ภูมิปัญญาคงอยู่นั้น  นายเพือย  ดีด้วยมี   ได้อธิบายสรุปไว้ดังต่อไปนี้
 ๑.   มีความเสียสละ มีคุณธรรมช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โดยไม่หวังผลตอบแทนไม่มีการเรียกร้องค่ารักษา รวมทั้งมีการพูดคุยให้ข้อมูลแก่คนไข้รวมทั้งมีการให้กำลังใจแก่คนไข้ที่มารับการรักษา
๒.   เนื่องจากในชุมชนท้องถิ่นประชาชนยังมีความเชื่อในการรักษาแบบพื้นบ้าน
๓.   การได้เห็นประสิทธิภาพในการรักษาช่วยเหลือผู้เจ็บป่วย
๔.   การที่ภูมิปัญญามีการสะสมองค์ความรู้มาเป็นระยะเวลายาวนานทำให้ชาวบ้านมี      ความเชื่อถือ
๕.   การมีสมุนไพรที่สามารถหาได้ในท้องถิ่น
๖.   การใช้มนต์คาถา ซึ่งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและเป็นกระบวนการที่ยังพิสูจน์

             ให้ความรู้เรื่องสมุนไพรกับผู้สนใจทั่วไป
ผลงานที่ผ่านมา
 ผลงานด้านการเป็นหมอพื้นบ้าน
 มีบทบาทการรักษาอาการเจ็บป่วย ด้วยโรคต่าง ๆ โดยมีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคเป็นพิเศษ คือ โรคพื้นบ้าน  อาการผิดสำแดง งูสวัด คางทูม เด็กเป็นซางตานขโมยและผู้ที่ถูกคุณไสย
เป็นวิทยากรในการอบรมให้ความรู้เรื่องสมุนไพรให้กับเด็กเยาวชน นักเรียน  เป็นวิทยากรในการอบรมให้ความรู้เรื่องของสมุนไพรพื้นบ้าน  ทั้งในระดับชุมชน และในระดับจังหวัด  ตลอดจนเป็นตัวแทนหมอ พื้นบ้านจังหวัดสุรินทร์ร่วมประชุมและสัมมนาในระดับภาคและระดับประเทศ

เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องสมุนไพรพื้นบ้านกับนักเรียน
รางวัลเกียรติคุณที่ได้รับ 
๑.  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านหมอพื้นบ้านของจังหวัดสุรินทร์
๒.  เชิดชูเกียรติ “ครูผู้มีอุปการะคุณด้านการแพทย์แผนไทย” จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์
๓.  รางวัลช้างเงิน “ภูมิปัญญาพื้นบ้านด้านการเป็นหมอพื้นบ้าน” จากมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
๔.  เกียรติบัตรเชิดชูเกียรติภูมิปัญญาพื้นบ้าน  จากศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
๕.   เกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ หมอพื้นบ้าน จากกระทรวงสาธารณสุข

   เป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการศึกษาสำรวจพันธุ์สมุนไพร
ผลงานอื่น ๆ ในชุมชน
๑.  เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านกาเกาะ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๔-๒๕๓๙ ขณะที่เป็นผู้ช่วยฯ ได้สนใจพัฒนาความรู้โดยได้ศึกษาต่อที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจนกระทั่งจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖
๒.  เป็นกรรมการสภาตำบล
๓.  เป็นหัวหน้าคุ้มในหมู่บ้าน
๔.  ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของหมู่บ้าน และที่ปรึกษากองทุนหมู่บ้าน
๕.  เป็นอาจารย์สอนวิปัสสนากรรมฐาน  ในช่วงที่มีพิธีปริวาสกรรมทุกปี ปีละ ๔-๕ วัด
๖.  กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านหมอพื้นบ้านของจังหวัดสุรินทร์
๗.  เป็นวิทยากรพิเศษด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพพื้นบ้านของจังหวัด  ทั้งในระดับหมู่บ้าน  อำเภอ  และจังหวัด

Cr. http://www.surinpao.org/index.php?action=read&mod=menu&Id=53#.Vdnzf_ntlBc

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น